รู้ไว้ให้ช็อปคล่องขึ้นกับ #5 ข้อดีและ #5 บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ทั้งไทยและเทศที่คุ้มมากในปี 2021!
บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ได้หรือไม่? แล้วมีบัตรเครดิตใบไหนที่คุ้มค่าแก่การซื้อของออนไลน์บ้าง? คงเป็นคำถามสำคัญของคนในยุคนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าการจับจ่ายใช้สอยเปลี่ยนไปจากแบบเดินช็อปปิ้งเป็นการกดสั่งจากแอปพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์ เงินที่จ่ายจึงไม่ใช่เงินสดอีกต่อไป
การมองหาส่วนลดและสิทธิพิเศษจึงเป็นเรื่องอันดับต้น ๆ ที่ทุกคนสนใจ แล้วคุณจะรู้ว่าการใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ให้อะไรมากกว่าที่คิด
Contents
รู้จัก #5 ข้อดีของการใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์แบบจีเนียส!
1. สามารถใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์เว็บไซต์ต่างประเทศได้ง่าย
ใครที่รู้ตัวว่าเป็นพวกมีกิเลสเวลาเข้าเว็บฯ ต่างประเทศต้องพิจารณาบัตรเครดิตคุ้ม ๆ ไว้สักใบ เพราะส่วนใหญ่แล้วเว็บไซต์สัญชาติอื่นมักไม่มีบริการเติมเงินเข้าแอปพลิเคชั่น แต่เป็นการตัดผ่านบัตรเครดิตมากกว่า
ที่สำคัญหากคุณใช้บัตรเครดิตในการซื้อของออนไลน์กับเว็บฯต่างประเทศ จะสามารถเลือกชำระเป็นสกุลเงินนั้น ๆ ได้ด้วย รับรองว่าประหยัดและสะดวกสบายเป็นอย่างมาก
2. จะมีอะไรสะดวกไปกว่าการใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์
ไม่ต้องนั่งนับเงิน ไม่ต้องนั่งกรอกเลขบัญชีหรือเลือกธนาคารอะไรให้ยุ่งยาก เพียงแค่ผูกบัตรเครดิตไว้ล่วงหน้า กรอกรหัส OTP เพียงเท่านี้ก็สามารถชำระได้แล้ว
ที่สำคัญยังมีใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ส่งให้ตาม E-Mail ที่ลงทะเบียนไว้ด้วย เรียกได้ว่าทั้งปลอดภัย ทั้งสะดวก ครบ จบ ในบัตรเดียว
3. ใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์แบบผ่อนชำระได้
การซื้อของหนึ่งครั้งอาจจะมีราคาไม่มาก ไปจนถึงมีราคาค่อนข้างสูง จะดีแค่ไหนถ้าบัตรเครดิตของคุณมีโปรโมชั่นผ่อนชำระสินค้า ไม่ว่าจะเป็นประเภทผ่อนชำระ 0% หรือผ่อนชำระแบบมีดอกเบี้ย ก็สามารถช่วยให้คุณไม่ต้องจ่ายเงินก้อนในตู้มเดียว ยังมีเงินใช้สำหรับอย่างอื่นเหลือ ๆ
4. บัตรเครดิตมักมีสิทธิพิเศษและส่วนลดเมื่อซื้อของออนไลน์
ถือเป็นข้อดีหลัก ๆ ของบัตรเครดิตเลยก็ว่าได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วบัตรเครดิตมักมีโปรโมชั่น มีสิทธิหรือส่วนลดพิเศษให้กับผู้ถือบัตร ใครที่ชอบสะสมแต้มแลกของ หรือเครดิตเงิน (Cash Back) ก็เตรียมดูเงื่อนไขบัตรเครดิตให้ดี ๆ จะได้ไม่พลาดความคุ้ม
5. ใช้บัตรเครดิตซื้อของ ช่วยเตือนความจำในการใช้จ่าย
หากใช้เงินสดในการจ่ายค่านั่นนี่ อาจทำให้หลายคนลืมว่าควักไปเท่าไหร่แล้ว ทำให้ตาม Track ค่าใช้จ่ายได้ยาก แต่เมื่อคุณใช้บัตรเครดิตปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะรายการบันทึกค่าใช้จ่าย (Statement) จะโชว์ให้ดูอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นชื่อร้านค้า วันเวลา ราคา ยอดสินค้าและบริการ รับรองว่าเห็นแล้วร้องอ๋อแน่นอน
แนะนำตัวท็อป #5 บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ไทยก็ได้ ต่างประเทศก็ดีที่คนยุค 2021 ต้องห้ามพลาด!
1. บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ Citi Lazada
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหากนึกถึงบัตรเครดิตซื้อของออนไลน์แล้วจะพลาด ‘บัตรเครดิต Citi Lazada’ เพราะแค่อ่านชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นบัตรที่เกิดมาเพื่อช็อปผ่านแอปพลิเคชั่นอย่างแท้จริง ใครที่เป็นสาวกลาซาด้า (Lazada) ตั้งแต่เก่าก่อนเตรียมอ้าแขนรับสิทธิพิเศษและส่วนลดมากมายที่แจกกันทุกวัน
ไม่ว่าจะเป็นโค้ดส่วนลดจาก Lazada มูลค่า 1,000 บาท พร้อมรับคะแนนสะสมจุก ๆ 4,000 คะแนนเมื่อซื้อในแคมเปญ Birthday Sale, Lazada Mid-Year Sale, 9.9, 11.11 และ 12.12 ที่สำคัญแต้มสามารถเปลี่ยนเป็นเครดิตเงินคืน (Cash Back) ได้อีกต่อ มีแต่คำว่าคุ้ม
อายุขั้นต่ำผู้สมัครบัตร | 20 ปี |
รายได้ขั้นต่ำผู้สมัครบัตร | 15,000 บาทต่อเดือน |
สิทธิพิเศษ | – รับโค้ดส่วนลดจาก Lazada มูลค่า 1,000 บาท – แลกคะแนนสะสมเป็นเครดิตเงินคืนสำหรับการใช้จ่ายในแอปพลิเคชั่นลาซาด้า – รับส่วนลด ณ ร้านค้า ร้านอาหาร กว่า 4,000 แห่งทั่วโลก – รับบัตรกำนัล Starbucks มูลค่า 200 บาท – แลดรับคะแนน รีวอร์ด 10 เท่า ในทุกการใช้จ่ายบน Lazada Thailand – รับคะแนน 4,000 คะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ด เมื่อใช้จ่ายในลาซาด้า เมกาแคมเปญ (Lazada Birthday Sale, Lazada Mid-Year Sale, 9.9, 11.11 และ 12.12) – รับคะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ด 3 เท่า ทุกการใช้จ่ายในหมวดหมู่แฟชั่น และสุขภาพ – รับส่วนลด 8% เมื่อซื้อทัวร์ และการท่องเที่ยว – พร้อมส่วนลด 300 บาท เมื่อใช้จ่ายขั้นต่ำ 1,500 บาท ผ่านแอปพลิเคชั่น Klook – รับสิทธิ์รับบัตรชมภาพยนตร์ฟรี 1 ที่นั่ง ที่โรงภาพยนตร์ ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ทุกสาขาทั่วประเทศ |
สมัครบัตรเครดิต | คลิกที่นี่ |
รีวิวจากชาว Pantip
ใช้คะแนนสำหรับแลกรับเป็นเงินคืนเข้าบัตรเครดิต เวลาซื้อสินค้าผ่าน lazada ครับ จะมีข้อความเข้ามาแจ้งหลังใช้บัตรซื้อสินค้า และมีเวลา 24 ชั่วโมงในการแลกคะแนนครับ
2. บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ K-Bank Shopee
มีบัตรเครดิตลาซาด้าไปแล้วจะพลาดบัตรเครดิต K-Bank Shopee ได้ยังไง เอาใจสาวกแอปพลิเคชั่นสีส้มและลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย มาพร้อมสิทธิพิเศษระดับบิ๊ก เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรก็รับคะแนนสะสม K-Point ได้สูงสุด 10 เท่า สายเก็บ Shopee Coins ก็รับ 1% ในทุกการใช้จ่าย ปังสุดด้วยการส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำตลอดปี ได้ใจคนช็อปเก่งอย่างแน่นอน พร้อมรับโค้ดส่วนลดสูงสุดถึง 1,000 บาท เรียกได้ว่างานนี้มีแต่ได้กับได้ ใครที่เป็นขาช็อป Shopee ต้องห้ามพลาด
อายุขั้นต่ำผู้สมัครบัตร | 20 ปี |
รายได้ขั้นต่ำผู้สมัครบัตร | 15,000 บาทต่อเดือน |
สิทธิพิเศษ | – รับโค้ดส่วนลด 150 บาทที่ Shopee Thailand เมื่อใช้ 1,000 K Point – รับโค้ดส่วนลด Shopee มูลค่า 400 บาท เมื่อมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตร ตั้งแต่ 5,000 บาท – รับเพิ่มโค้ดส่วนลด Shopee มูลค่า 600 บาท เมื่อใช้จ่ายสะสมตั้งแต่ 30,000 บาท ภายใน 90 วัน – รับ K Point สูงสุด X10* เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ที่ Shopee Thailand เพียง ใช้จ่ายครบ 10,000 บาทขึ้นไป / รอบบัญชี – รับเพิ่ม 1% Shopee Coins – ส่งฟรี ไม่มีขั้นต่ำ – ประกันอุบัติเหตุการเดินทาง วงเงินสูงสุด 8,000,000 บาท |
สมัครบัตรเครดิต | คลิกที่นี่ |
รีวิวจากชาว Pantip
แต่ส่วนใหญ่ผมจะได้ coin จากการจ่ายบิล เติมเงิน…ต้องกดยืนยันรายการถึงจะได้ coin เลย…แต่เคยได้ช้าถ้าวันนั้นมีการยกเลิกรายการได้ coin..แล้วไปทำรายการอื่นใหม่ วันนั้น coin จะมาช้าทันที..เคยติดต่อไป เจ้าหน้าที่บอกว่า coin จะมาช้าไม่เกิน 24 ชั่วโมง
3. บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ Tesco Lotus Visa Platinum
คุณแม่บ้านพ่อบ้านทั้งหลายอาจจะรู้สึกว่าบัตรใบนี้มันมีไว้รูดที่ห้างโลตัสไม่ใช่เหรอ? แต่รู้หรือไม่ว่าเจ้าบัตรเครดิตใบนี้มีดีด้านการช็อปออนไลน์เป็นอย่างมาก กว่า 8 เว็บไซต์ที่ถ้าได้ยินชื่อก็คงร้องอ๋อ อาทิ Nike.com, JD Central, Apple.com, Agoda.com, Nok Air.com ครอบคลุมทุกการใช้จ่ายสูงสุด 13% หลังจากนี้จะไม่ใช่แค่บัตรเครดิตสำหรับซื้อของเข้าบ้านอย่างเดียวแล้ว เมื่อรู้เรื่องนี้ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
อายุขั้นต่ำผู้สมัครบัตร | 20 ปี |
รายได้ขั้นต่ำผู้สมัครบัตร | 15,000 บาทต่อเดือน |
สิทธิพิเศษ | – รับคูปองเงินสดคลับการ์ด 2.5% จากยอดใช้จ่ายที่โลตัส ทุกสาขา และโลตัส ช้อปออนไลน์ – ผ่อน 0% ทุกชิ้น ทั้งห้าง* รูดก่อนเลือกผ่อนทีหลัง ผ่อนจัดให้ 0% นาน 3 เดือน ที่โลตัส ทุกสาขา และโลตัส ช้อปออนไลน์ – รับเครดิตเงินคืน 2%* เมื่อเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ ทั่วประเทศ โดยไม่กำหนดยอดใช้จ่ายขั้นต่ำ ไม่ต้องลงทะเบียน ไม่ต้องแลกคะแนน และรับเครดิตเงินคืนเข้าบัญชีบัตรเครดิตทันที – รับคูปองเงินสดคลับการ์ด 0.5%* จากยอดใช้จ่ายทุกที่ทั่วโลก ณ ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ วีซ่า อาทิ เช่น รายการใช้จ่ายปกติ รายการชำระเบี้ยประกันชีวิต รายการหักบัญชีอัตโนมัติ รายการซื้อสินค้าออนไลน์ รายการใช้จ่ายต่างประเทศ – รับเครดิตเงินคืน 13% เมื่อช็อปผ่านเว็บไซต์ Nike.com |
สมัครบัตรเครดิต | คลิกที่นี่ |
รีวิวจากชาว Pantip
ใช้อยุ่ เป็นอีก1บัตรที่ไม่เคยคิดจะปิดเลย ชอบมาก ลดซ้ำลดซ้อน คุ้มมาก
ถ้าถามผมเป็นบัตรที่ดีที่สุดรองจาก SCBT elite แล้วครับ ปีนึงผมได้เงินคืนเป็น voucher โลตัสประมาณ 3,000-4,000 ได้ cash back ทั้งจากค่าตั๋ว เที่ยวต่างประเทศ ซื้อของออนไลน์ ร้านอาหาร โปรโมชั่นประจำเดือน รวมปีๆนึงน่าจะเป็นหมื่น เติมน้ำน้ำมัน esso ลดอีก 3% โดยไม่มีเงื่อนไขที่ยุ่งยาก
น่าจะเป็นรองแค่ drive platinum ของธนชาต ข้อเสียอย่างเดียวที่ผมเจอคือ ไม่มี sms แจ้งการใช้งาน เคยมีบิลซ้ำซ้อนแล้วผมพึ่งมารู้ตัวตอนสิ้นเดือน ผมเลยจำกัดยอดเงินบัตรไว้แค่ 30%ของที่เค้าให้เอง
4. บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ KTC Cash Back Platinum
หากจะถามว่าบัตรเครดิต KTC Cash Back ใบนี้น่าใช้ซื้อของออนไลน์ที่ตรงไหน ก็คงหนีไม่พ้นคำว่าเครดิตเงินคืน หรือ Cash Back สูงสุด 0.8% ตามที่แสดงคุณประโยชน์ชัดเจนในบัตร แต่ใครจะรู้บ้างว่าเจ้าบัตรเครดิตใบนี้มีความดีงามที่คนช็อปออนไลน์ต้องร้องว้าว
เพราะ KTC Cash Back Platinum ให้ทุนประกันสินค้าเสียหายสูงสุดถึง 200 USD เลยทีเดียว พร้อมทั้งโปรโมชั่นผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน ไม่เพียงเท่านั้นยังได้โปรโมชั่นลดสูงสุด 400 บาท เมื่อช็อปกับลาซาด้า ช็อปปี้และ Pomelo
ดอกเบี้ย | 16 % |
ค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีและแรกเข้า |
รายได้ขั้นต่ำผู้สมัครบัตร | 15,000 บาทต่อเดือน |
สิทธิพิเศษ | – รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 0.8% – รับส่วนลด 200 บาท เมื่อช้อปผ่าน Lazada ครบ 1,299 บาท / รายการซื้อสุทธิ ด้วยบัตรเครดิต KTC MASTERCARD – ประกันภัยความคุ้มครองการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต KTC MASTERCARD กรณีไม่จัดส่งสินค้า และ / หรือการจัดส่งสินค้าไม่ถูกต้องและไม่ครบถ้วน ด้วยวงเงินประกันสูงสุด 200 ดอลล่าร์สหรัฐ – ผ่อนชำระง่าย ชำระสินค้า/บริการด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% สูงสุด 10 เดือน – สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกใหม่บัตรเครดิต KTC รับความคุ้มครองอุบัติเหตุวงเงิน สูงสุด 300,000 บาท นาน 90 วันนับจากวันที่เปิดใช้บริการบัตร – ประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ด้วยวงเงินประกันคุ้มครองสูงสุด 8,000,000 บาท และประกันกระเป๋าเดินทางสูญเสียและสูญหายจากการเดินทางวงเงินสูงสุด 40,000 บาท / ครั้ง – เบิกถอนเงินสดด้วยบัตรเครดิตได้เต็มวงเงินของยอดคงเหลือในขณะนั้น หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท / วัน |
สมัครบัตรเครดิต | คลิกที่นี่ |
รีวิวจากชาว Pantip
ความแตกต่างคือแค่เป็น Visa กับ Master Card ใช้ในไทยอาจไม่เห็นความแตกต่าง แต่ถ้าได้ใช้ในต่างประเทศ เรตค่าเงิน Master Card จะดีกว่านิดหน่อย แต่ส่สนไม่คิดว่าจะมีผลมาก ถ้าบัตรมีโปรพิเศษ จขกท ลองเช็คกับทาง KTC อีกทีนะครับ คือเหมือนผมคุ้นๆว่าถ้าเอาไปผ่อนเหมือนจะไม่ได้ caskback อันนี้ไปถามทาง KTC อีกทีนะครับ
5. บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ Krungsri JCB Platinum
เอาใจขาช็อปโซนเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการช็อปปิ้งในประเทศญี่ปุ่นที่จะทำให้ผู้ถือบัตรรับแต้มสูงสุด 3 เท่าเมื่อใช้จ่ายครบ 4,000 บาท หรือสามารถแลกรับเป็นเครดิตเงินคืน 3% เมื่อใช้จ่ายที่ร้านอาหารญี่ปุ่นหรือร้านอาหารที่ร่วมรายการครบ 800 บาท พร้อมบริการ Airport Lounge ที่สนามบินในประเทศญี่ปุ่น 28 แห่ง จะช็อปออนไลน์ หรือช็อปออฟไลน์ก็คุ้มค่า มีสิทธิพิเศษมากมายให้เลือก
ดอกเบี้ย | 16 % |
ค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีและแรกเข้า |
รายได้ขั้นต่ำผู้สมัครบัตร | 15,000 บาทต่อเดือน |
สิทธิพิเศษ | -บริการ Airport Lounge ที่สนามบินในประเทศญี่ปุ่น 28 แห่ง -รับเครดิตเงินคืน 3% เมื่อใช้จ่ายที่ร้านอาหารทั่วโลก -ยกเว้น ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี – รับเครดิตเงินคืน 1% สำหรับรายการใช้จ่ายครบทุก 4,000 บาท/เซลล์สลิป ที่ประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสิงคโปร์ – รับสิทธิ์เช่า Pocket Wifi ราคาสุดพิเศษกับ 4 Wifi รับสิทธิ์เช่า Pocket Wifi ไปประเทศญี่ปุ่น, เกาหลี, ไต้หวัน, สิงคโปร์ และเวียดนาม ในราคาพิเศษเพียง 100 บาทต่อวัน |
สมัครบัตรเครดิต | คลิกที่นี่ |
รีวิวจากชาว Pantip
ในไทยร้านอาหารญี่ปุ่น มีโปรเด่นดี เเยอะด้วย น่าสน เรากำลังศึกษาอยู่
รู้สึกบัตรนี้จะมีโปร cash back เมื่อรูดในร้านอาหารด้วยนะ
โปรร้านอาหารและเครื่องดื่มเช่นสตาร์บัครใช้800ต่อเซลสลิปได้คืน3%เท่ากับ24บาทชอบมากๆโปรนี้ใช้แค่เติมเงินเข้าสตาบัคร์ก็ถือว่าคุ้มแล้วคับแถมโปรร้านอาหารก็เยอะอีกด้วย
บทสรุป บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ต้องใช้บัตรใบไหนถึงคุ้มค่า?
การที่จะเราจะบอกว่าบัตรใบไหนคุ้มค่ากว่ากันนั้นเป็นสิ่งที่ยากมาก เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้เป็นสำคัญ หากว่าคุณเป็นคนที่ซื้อของออนไลน์ผ่านลาซาด้า (Lazada) หรือช็อปปี้ (Shopee) ก็ควรที่จะมองหาบัตรเครดิตที่ให้สิทธิประโยชน์แบบจัดหนักอย่างเช่น บัตรเครดิต Citi Lazada หรือบัตรเครดิต K-Bank Shopee หรือถ้ามาสายสะสมเครดิตเงินคืนก็ห้ามพลาด บัตรเครดิตที่ให้ Cash Back เป็นสำคัญ
ส่วนใครที่ถือบัตรเครดิตอยู่แล้วก็อย่าเพิ่งตกใจไปว่าตัวเองจะซื้อของออนไลน์ไม่ได้ ขอให้ตรวจสอบโปรโมชั่นของบัตรให้แน่ชัดก่อน เนื่องจากว่าบัตรเครดิคที่ใช้ซื้อของออฟไลน์อย่างบัตรเครดิตโลตัสก็มีส่วนลดออนไลน์มากมาย ถ้าหากจะเน้นซื้อของโซนเอเชียก็ควรมองหาบัตรเครดิตประเภท JCB เพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษได้ตรงใจกับความต้องการที่สุดนั่นเอง